สวัสดีครับท่านสมาชิกสมาคมและผู้อ่านที่รักทุกท่าน
ผมขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่ให้เกียรติเลือกพวกเราเป็นกรรมการสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย วาระปัจจุบัน 2564 -2565 ในปีที่ผ่านมา covid 19 มีผลทำลายชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจ ทั่วโลกอย่างรุนแรง สำหรับทางสมาคมเราก็เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนภาครัฐ โดยเฉพาะทางสาธารณสุข และการแพทย์ในการนำเสนอแนวทางในการออกแบบ ปรับปรุงห้องผู้ป่วย ให้มีการจัดการกับเชื้อโรคไวรัสและสิ่งปนเปื้อนได้อย่างถูกต้องได้มาตรฐาน ท่านนายกชัยชาญและกรรมการชุดเดิมได้ตั้ง COVID Team มีการประชุมกันทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อตอบสนองปัญหาและความต้องการที่เกิดขึ้นจากบุคคลากรทางการแพทย์และสถานประกอบการในหลากหลายมิติ ผมขอแสดงความชื่นชม กับทีมงาน ที่ทุ่มเทและเสียสละอย่างมากในช่วงนั้นครับ สถานการณ์การระบาด โดยรวมทั่วโลกมีสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ได้ลดลงติดต่อกันเป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์แล้ว (ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในรอบ 14 วันลดลงกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันลดลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก- ข้อมูลจาก The New York Times และ Bloomberg วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564) ล่าสุด (1 มีนาคม2564) มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 241 ล้านโดส ใน 103 ประเทศ โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 6.73 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากประเด็น COVID 19 ประเทศไทย ก็ยังเผชิญกับปัญหาพื้นฐานที่ อ่อนแอทางด้านเศรษฐกิจมาระยะหนึ่ง อาทิ ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ในองค์รวม ความสามารถในการ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ความสามารถในการสร้างเทคโนโลยี ความสามารถในการ เป็นศูนย์กลางในการประกอบธุรกิจเพื่อแข่งขันกับตลาดโลกทั้งมหภาคเช่นทางด้านการเงินการคลังอัตราแลกเปลี่ยน แม้ว่าไทยเราจะยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในหลายด้าน หากแต่ผู้เล่นอื่นในตลาดโลกก็เติบโตแข็งแรงมากมากขึ้นเช่นกัน อาทิเช่น เวียดนามในปัจจุบัน เป็นจุดที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนเพราะค่าแรงถูกกว่าไทยประมาณครึ่งหนึ่ง และนโยบายเปิดกว้าง FTA หรือเขตการค้าเสรีซึ่งเวียดนามได้ทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ เป็นจำนวนมากในระยะที่ผ่านมา ปัจจุบันเวียดนามสามารถส่งออกสินค้าไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ไปตลาดโลกมูลค่ามากกว่าไทยประมาณ 1 เท่าตัว นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยในปีนี้และต่อไป สำหรับวงการวิศวกรรมปรับอากาศและเครื่องปรับอากาศของเรา ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของประเทศ ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่อันดับ 2 ของโลก นำรายได้จากการส่งออกเข้าประเทศปีละ 170,000 ล้านบาท มาตรฐานผลิตภัณฑ์ของเราก็ถือเป็นอันดับต้นต้นของภูมิภาคทั้งด้านประสิทธิภาพ ด้านสารทำความเย็นที่เป็นมิตรมากขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และประเด็นที่แข็งแรงที่สุดก็เป็นเรื่องบุคคลากรในวงการนี้ ทั้งการผลิต การออกแบบ การติดตั้งงานระบบ ก็เป็นระดับแนวหน้า สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณสมาชิกและสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุน การทำงานของพวกเราอย่างดีตลอดมา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับจากทุกท่านต่อไปเพื่อพัฒนางานวิชาการ งานมาตรฐานและส่งเสริมวิชาชีพของพวกเราต่อไปครับ นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย วาระปี 2564 - 2565